10 อันดับประเทศที่ดื่มกาแฟมากที่สุดในปี 2023

การบริโภคกาแฟไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป เมื่อผู้คนบนโลกหันมาบริโภคกาแฟกันมากยิ่งขึ้น กาแฟกลายเป็นสินค้านำเข้ามากเป็นอันดับสองของโลกรองจากน้ำมัน และเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

เนื่องจากปัจจุบันมีการปลูกมากกว่า 70 ประเทศเขตร้อน มีการคั่ว ขาย และต้มกาแฟมากมาย ทำให้เกิดคำถามว่า ใครเป็นผู้ที่ดื่มกาแฟมากที่สุดในโลก ?

หากคุณเป็นหนึ่งในคนขี้สงสัยเหมือนเรา ตามไปดูสถิติด้านล่างนี้เลย เราไม่เพียงแชร์ว่าใครดื่มกาแฟมากที่สุดในปี 2023 แต่เรายังเน้นสถิติที่น่าสนใจอื่นๆ ซึ่งคุณจะต้องประหลาดใจเมื่อได้เห็น

1. Finland

ฟินแลนด์ เป็นผู้บริโภคกาแฟอันดับหนึ่งของโลก แต่ละคนดื่มกาแฟโดยเฉลี่ย 4 แก้วต่อวัน และประมาณ 12 กิโลกรัม ต่อปี แต่นี่เป็นเพียงแค่ค่าเฉลี่ยเท่านั้น อย่างไรก็ตามนักดื่มกาแฟทั่วไปของประเทศฟินแลนด์จะดื่มระหว่าง 8-9 แก้วต่อวัน ส่วนผู้ที่ชอบและรักการดื่มมาก ๆ ชนิดคลั่งรักกาแฟ จะดื่มมากถึง 30 แก้วในหนึ่งวัน (โอ้ววววว….. แค่อ่านแอดก็จะนอนไม่หลับแล้ว)

สำหรับประเทศฟินแลนด์ กาแฟเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และกฎหมายกำหนดให้มีช่วงพักดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละสองครั้งในขณะทำงาน (แอดคิดว่าเหตุผลที่กาแฟเป็นที่นิยมในประเทศนี้ เป็นเพราะอุณหภูมิที่เย็นจัด และสามารถเย็นได้สูงถึง -40°)

นอกจากนั้น ฟินแลนด์ยังมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เฟื่องฟู โดยมีร้านกาแฟและร้านค้าอยู่ทั่วทุกมุม อย่างไรก็ตาม ที่น่าสนใจคือ การคั่วระดับอ่อนนั้น เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน ส่วนการคั่วระดับกลางถึงเข้มเริ่มเป็นที่ยอมรับ (อันนี้แอดว่าตรงข้ามกับบ้านเราเนอะ) [อ้างอิง]

2. Norway

นอร์เวย์ มีการบริโภคกาแฟโดยรวมเป็นอันดับสองรองจากฟินแลนด์ ที่นี่คนทั่วไปมักดื่มกาแฟประมาณสามแก้วต่อวัน โดยผู้ที่ดื่มมาก ๆ จะดื่มมากกว่าวันละห้าหรือหกแก้ว เครื่องดื่มร้อนเป็นที่นิยมมากเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น

ชาวนอร์เวย์มักใช้เวลาพักดื่มกาแฟบ่อยครั้งในระหว่างวันทำงาน พวกเขาจะใช้คำว่า “Kaffepause” ก็แปลตรงตัวว่า “หยุด…ดื่มกาแฟ” ไม่เพียงแค่บริโภคในขณะทำงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหลังอาหารเช้า อาหารเย็น และหลังของหวานด้วย

ร้านกาแฟในนอร์เวย์มักใช้เป็นสถานที่สังสรรค์กับเพื่อน ๆ ซึ่งหากคุณมีโอกาสแวะเวียนไปที่ร้านกาแฟในนอร์เวย์ คุณจะไม่ค่อยเห็นผู้คนอ่านหนังสือเงียบ ๆ หรืออยู่ในมุมคนเดียว แต่จะเห็นกลุ่มคนพูดคุย หัวเราะ และเพลิดเพลินกับการอยู่ร่วมกัน

3. Iceland

ไอซ์แลนด์ ชาวไอซ์แลนด์คลั่งไคล้กาแฟเป็นอย่างมาก กาแฟเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของพวกเขาและเติบโตมานานหลายทศวรรษ ที่นี่จะพบว่าแทบไม่มีแบรนด์กาแฟต่างประเทศ ร้านกาแฟส่วนใหญ่ในไอซ์แลนด์เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นเช่น Kaffitár หรือ Te og Kaffi และคาเฟ่ที่นี่พวกเขาต่างภูมิใจที่จะได้ชงกาแฟที่ดีที่สุดในโลกเพื่อเสริฟให้กับคุณ

นอกจากนี้หากคุณได้มาที่ร้านกาแฟที่ประเทศไอซ์แลนด์ จะมีบางร้านที่พวกเขาจะต้อนรับลูกค้าด้วยคำว่า “tíu dropar” (ตี้ยู โดรฟาร์) ก่อนจะเสริฟกาแฟถ้วยเล็ก ๆ ให้คุณได้ทดลองจิบ

บางคนเชื่อว่าความนิยมของกาแฟในไอซ์แลนด์มีสาเหตุมาจากการที่เข้าถึงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ได้ยาก และเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ไวน์ก็มีราคาที่แพงมากเช่นกัน

4. Denmark

เดนมาร์ก “Kaffeslabberas” เป็นคำที่ใช้ในเดนมาร์กเมื่อคุณสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อดื่มกาแฟและเค้ก พวกเขานิยมดื่มกาแฟทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หลังเลิกงาน หลังอาหาร และเวลาอื่น ๆ ในระหว่างวันก็ไปหากาแฟกิน

ชาวเดนมาร์กมักไม่ค่อยชอบไปร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่นัก แต่พวกเขากลับชอบร้านกาแฟที่มีโรงคั่วขนาดเล็กที่จะมอบกาแฟชั้นเลิศให้พวกเขา

5. The Netherlands

เนเธอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีอากาศหนาว และการดื่มกาแฟร้อนจะช่วยเพิ่มความสุขให้กับผู้คนได้ อย่างไรก็ตามชุมชนกาแฟในเนเธอร์แลนด์ไม่ได้ตื่นเต้นกับร้านกาแฟที่หรูหราหรือเครื่องดื่มที่มีการตกแต่งมากเกินไป พวกเขาชอบให้มันเรียบง่ายกับแก้วกาแฟธรรมดาที่ดื่มกับเพื่อน

6. Sweden

สวีเดน คงคล้ายกับหลาย ๆ ประเทศที่เราได้กล้าวข้างต้น พวกเขามีความหลงไหลในกาแฟอย่างหนัก และจะเขาใช้คำว่า “fika” เพื่อแสดงถึงการพักผ่อนสำหรับดื่มกาแฟ รับประทานเค้กและคุยคุยกัน ข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นว่าการบริโภคกาแฟประมาณ 1.8 ถ้วยต่อคนต่อวันเป็น

คนรักกาแฟที่นี่ชอบใช้เวลาในร้านกาแฟที่พวกเขาชื่นชอบเพื่อสังสรรค์ และพวกเขามักจะเปิดใจยอมรับแนวคิดใหม่ ถ้วมถึงวัตกรรมในด้านกาแฟอื่น ๆ

7. Switzerland

สวิตเซอร์แลนด์ มีการรับประทานกาแฟอย่างหลากหลาย ร้านกาแฟของพวกเขาสะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวสวิตเซอร์แลนด์ ที่นี่ไม่เพียงเป็นประเทศที่บริโภคกาแฟอย่างมาก แต่ยังเป็นที่มาของนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการบริโภคกาแฟ ด้วยแบรนด์ดังอย่าง Nespresso ก็เป็นหนึ่งในนวัตกรรมการดื่มกาแฟที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน

ชาวสวิตเซอร์แลนด์ยังมีจินตนาการในการสร้างสรรค์เมนูกาแฟใหม่ ๆ เช่น Luzerner Kafi ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างไวน์แดงและกาแฟ แต่กาแฟที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือเอสเปรสโซหรือคาเฟ่-เครม ซึ่งเป็นเอสเปรสโซที่เติมครีม

8. Belgium

เบลเยี่ยม เมืองในประเทศเบลเยียมที่มีร้านกาแฟหลายพันแห่ง รวมทั้งบรัสเซลส์และแอนต์เวิร์ป รวมทั้งร้านวิตตาเมอร์ที่มีบริการเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ชื่อ “brûlot” ที่ประกอบด้วยน้ำตาล, อบเชย, กานพลู, เปลือกมะนาวซอยและคอนยักอุ่น

9. Luxembourg

ลักเซมเบิร์ก ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุดของโลก ลักเซมเบิร์กก็มีร้านกาแฟหลายพันแห่ง ตั้งแต่บ้านที่งดงามที่มีผ้าคลุมโต๊ะสีขาวอย่างหรูหรา จนถึงบาร์กาแฟขนาดเล็กที่คนต้องยืน

10. Canada

แคนาดา คนรักกาแฟที่นี่มีความสนใจมากขึ้นในเครื่องดื่มสเปเชียลตี้ โดยรวมแล้วคนในแคนาดามักจะชอบดื่มกาแฟที่บ้านมากที่สุด การสั่งกาแฟและดื่มที่บ้านเป็นที่นิยมมากไม่ว่าจะเป็นตอนตื่นเช้า หลังอาหารเย็น หรือทุกเวลาที่ต้องการดื่มเครื่องดื่มร้อน

ประเทศใดผลิตกาแฟมากที่สุด?

ประเทศผู้ปลูกและผลิตกาแฟมีอยู่ประมาณ 70 ประเทศ ทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใกล้เคียงเส้นศูนย์สูตร และมีอากาศร้อน แต่มีเพียง 50 ประเทศที่ส่งออกกาแฟไปยังส่วนอื่น ๆ ของโลก

เมื่อพูดถึงผู้ผลิตกาแฟมากที่สุด คงต้องพูดถึงประเทศบราซิล เขาไม่เพียงผลิตกาแฟมากที่สุด แต่ยังส่งออกกาแฟมากที่สุดด้วย รองลงมาคือเวียดนาม โคลัมเบีย อินโดนีเซีย และเอธิโอเปีย รวมการส่งออกกาแฟมากกว่า 96 ล้านถุงต่อปี

• ประเทศบราซิล: 5,714,381,000 ปอนด์ต่อปี ≈ 2,593,670 ตันต่อปี
• เวียดนาม: 3,637,627,000 ปอนด์ต่อปี ≈ 1,651,390 ตันต่อปี
• คอลัมเบีย: 1,785,744,000 ปอนด์ต่อปี ≈ 809,509 ตันต่อปี
• อินโดนีเซีย: 1,455,050,000 ปอนด์ต่อปี ≈ 659,982 ตันต่อปี
• เอธิโอเปีย: 846,575,000 ปอนด์ต่อปี ≈ 384,102 ตันต่อปี

สำหรับประเทศไทยมีการผลิตกาแฟประมาณ 86,701 ตันต่อปี (ข้อมูลปี 2564) [อ้างอิง]

สุดท้ายนี้
ในปี 2565 ฟินแลนด์มีการบริโภคกาแฟมากที่สุดในโลก อาจเป็นเพราะสภาพอากาศหนาวเย็น โดยหากพิจารณาจากการจัดอันดับจะพบว่า ประเทศในกลุ่มนอร์ดิกจำนวนมากอยู่ในอันดับต้น ๆ

สำหรับประเทศไทยนั้น ผลการสำรวจปี 2561 พบว่า คนไทยบริโภคกาแฟอยู่ที่ปีละ 300 แก้ว/คน/ปี (วันละไม่ถึงแก้ว) [อ้างอิง]. และมีแน้วโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปริมาณการบริโภคในกลุ่มประเทศที่ได้มีการจัดอันดับข้างต้นถือว่าธุรกิจกาแฟในประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก

แต่ละประเทศก็มักมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกัน และได้พัฒนารูปแบบของตนเองเพื่อสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมและบรรยากาศของประเทศตน อย่างประเทศไทยเราเองก็มีเครื่องดื่ม “ESYEN” ที่เป็นเอกลักษณประจำชาติ

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับบทความนี้ และพบกันใหม่ในบทความต่อ ๆ ไป

Note: สถิติของบทความนี้มาจากแหล่งที่มาของบุคคลที่สามและไม่ใช่ข้อมูลหรือความคิดเห็นที่มาจากเว็บไซต์นี้

Sources

• World Population Review
• Statista
• World Atlas
• Statista
• CBI Ministry Of Foreign Affairs
• coffeeaffection