เลือก Pitcher MHW-3BOMBER แบบไหนให้เข้ากับคุณ!?

เพื่อน ๆ อาจเห็นได้ว่า อุปกรณ์การทำกาแฟทุกวันนี้ส่งเสริมให้เราทำกาแฟในเชิงวิทยาศาสตร์ ด้วยการพึ่งพาตัวเลขกันมากขึ้น และข้อดีของการยึดตัวเลขในการทำกาแฟ ทำให้เราทำกาแฟได้รสชาติคงเดิมได้ง่าย อีกทั้งยังมีแนวทางที่จะปรับแก้รสชาติกันอย่างสะดวกสบาย แต่อีกศาสตร์หนึ่งของโลกกาแฟ ที่ต้องใช้การสร้างสรรค์ด้วยศิลปะล้วน ๆ นั่นก็คือการทำ Latte art ซึ่งจะต้องพึ่งพาทักษะ ความเชี่ยวชาญ และการฝึกฝน เป็นอย่างมาก โดยแทบไม่สามารถวัดคุณภาพของ Latte art กันด้วยตัวเลขได้ แม้แอดมินเองตอนฝึกทำ Latte art ก็ถูกสอนมาว่า ถ้าฝึกมากพอ ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์อย่างไร ก็สามารถเท Latte art ให้สวยได้ See less

แต่กระนั้นก็ตาม การเลือกอุปกรณ์ที่ตรงกับทักษะและสไตล์ของเรา ก็สามารถทำให้เราพัฒนาได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งอุปกรณ์สำคัญสำหรับการทำ Latte art ที่ขาดไปไม่ได้ก็คือ Pitcher หรือ Milk jug นั่นเอง และ MHW-3BOMBER ก็มีหลักการในการออกแบบพิทเชอร์ หลากรุ่น หลายสไตล์ เพื่อให้ตรงกับทักษะและสไตล์การใช้งาน แต่คำถามที่สำคัญก็คือ ทักษะที่เรามีอยู่ตอนนี้ เหมาะกับพิทเชอร์แบบไหนกันแน่?

MHW-3BOMBER รุ่น 3.0 เป็นทรงมาตรฐาน ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก๋าก็สมควรจะมีติดบ้านและร้าน สามารถเททั้งลายส่ายและลายดันได้ดีพอ ๆ กัน แต่ถ้าเพื่อน ๆ เป็นมือใหม่ และกำลังจะเข้าสู่โลกของ Latte art แอดมินคิดว่า 3.0 คือรุ่นที่เหมาะที่สุด เพราะธรรมชาติของมือใหม่จะไม่ค่อยกล้าออกแรงเทเพราะกลัวหก ซึ่งพิทเชอร์รุ่น 3.0 ออกแบบให้มีคอที่ยาวเพื่อช่วยเพิ่มการไหลของนม หรือ flow rate ให้แรงขึ้น ทำให้เทง่าย เป็นมิตรกับมือใหม่ ปากที่โค้งกำลังพอเหมาะสามารถฝึกฝนลาย stack อย่างทิวลิปได้ดี แม้มือเก๋าก็ควรมีติดร้านไว้ เพราะใช้งานได้แบบ overall See less

MHW-3BOMBER รุ่น 4.0 ปากแหลม เหมาะสำหรับการเทที่โฟกัสในเรื่องของเส้นที่เล็กและคม เหมาะกับคนที่ชอบในการเทลายส่าย อย่าง Rosetta เป็นพิเศษ และที่พูดถึงไม่ได้คือสีที่ออกแบบมาอย่างโดดเด่น บ่งบอกถึงสไตล์ของ Latte artist

MHW-3BOMBER รุ่น 5.0 ถือว่าเป็นรุ่นยอดฮิต และเป็นซิกเนเจอร์ของเราเลยก็ว่าได้ เพราะปาก crocodile หรือ ปากจรเข้ ที่ MHW พัฒนาขึ้นมาจากรุ่น 4.0 สามารถควบคุมลายเส้นแบบส่าย รวมไปจนถึงการใช้เทลาย advance ระดับแข่งขัน ซึ่งเป็นที่นิยมของสายแข่ง Latte art บ้านเราหลายคน ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับสายลึกที่ต้องควบคุมลายได้ละเอียด รุ่น 5.0 ก็มีแบบ Handle-less และหุ้มด้วยหนังเพื่อป้องกันความร้อน เหมาะสำหรับ free pour ขึ้นไปอีกขั้น

รุ่น Turbo โดดเด่นด้วยสไตล์และการออกแบบ ส่วนตัวแอดมินเองชอบตัวนี้เป็นอย่างมาก สำหรับบางคนที่มีปัญหาเวลาจับ handle แล้วไม่รู้จะเอานิ้วก้อยไปไว้ตรงไหน ซึ่งรุ่น Turbo ออกแบบให้ที่จับนั้นหลบนิ้วก้อย และด้วยการวางนิ้วก้อยไว้ด้านนอกทำให้สามารถควบคุมพิทเชอร์ได้ง่ายขึ้นมาก ซึ่งรุ่น Turbo นั้นออกแบบบนพื้นฐานของทรง Motta หรือ ทรงอิตาเลียน และ MHW-3Bomber ได้ออกแบบฐานพิทเชอร์ให้อ้วน ซึ่งช่วยในการสตีมนมให้ง่ายขึ้น เป็นอีกตัวที่ใช้งานง่าย มือใหม่ก็สามารถฝึก Turbo ได้อย่างสนุกสนาน และมีสไตล์เช่นกัน