10 อันดับเครื่องบดกาแฟยอดนิยมสำหรับคาเฟ่ในปี 2025

แนะนำเครื่องบดกาแฟสำหรับคาเฟ่: เลือกให้เหมาะ เพิ่มคุณภาพกาแฟให้ร้านคุณ

การเลือกเครื่องบดกาแฟเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อรสชาติและคุณภาพของกาแฟในร้านของคุณ หากเครื่องบดไม่ดี อาจทำให้การสกัดกาแฟไม่สม่ำเสมอ และสูญเสียรสชาติที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟได้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องบดที่เหมาะสมกับคาเฟ่ของคุณ พร้อมแนะนำ 10 อันดับเครื่องบดกาแฟยอดนิยมในปี 2025 ที่เจ้าของคาเฟ่ไม่ควรพลาด!

วิธีเลือกเครื่องบดกาแฟที่เหมาะกับคาเฟ่ของคุณ

ก่อนจะไปดูเครื่องบดกาแฟที่ได้รับความนิยม ลองมาดูปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อกันก่อน:

1. ประเภทของเครื่องบด – เลือกเครื่องบดแบบ Flat Burr, Conical Burr หรือ Blade Grinder ตามความต้องการของร้าน
2. ขนาดและความจุ – คาเฟ่ที่มีลูกค้าจำนวนมากควรเลือกเครื่องบดที่สามารถรองรับปริมาณการใช้งานสูง
3. ระดับการบดที่ปรับได้ – เครื่องบดควรสามารถปรับความละเอียดของผงกาแฟได้ เพื่อรองรับเมนูที่หลากหลาย เช่น เอสเปรสโซ่และดริป
4. ความเร็วและความร้อน – เครื่องบดที่เร็วเกินไปอาจทำให้เมล็ดกาแฟเกิดความร้อนสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อรสชาติ
5. วัสดุและความทนทาน – เลือกเครื่องที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง เช่น สเตนเลส หรือเซรามิก เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน

10 อันดับเครื่องบดกาแฟยอดนิยมสำหรับคาเฟ่ในปี 2025

1. Mahlkönig EK43 ⭐⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ที่ต้องการบดกาแฟอย่างมืออาชีพทุกประเภท

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: บดละเอียดสม่ำเสมอ ใช้ได้ทั้งเอสเปรสโซ่และกาแฟดริป
• ราคาโดยประมาณ: 120,000 – 150,000 บาท

2. Mazzer Super Jolly ⭐⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ขนาดกลางถึงใหญ่

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: ปรับระดับความละเอียดได้ดี ใช้งานง่าย แข็งแรงทนทาน
• ราคาโดยประมาณ: 30,000 – 50,000 บาท

3. Eureka Mignon Specialita ⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ขนาดเล็กถึงกลาง

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: ดีไซน์กะทัดรัด ปรับระดับบดได้แม่นยำ เงียบและไม่ร้อนง่าย
• ราคาโดยประมาณ: 25,000 – 35,000 บาท

4. Baratza Sette 270 ⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: ร้านกาแฟขนาดเล็ก หรือบาริสต้ามือใหม่

• ประเภท: Conical Burr Grinder
• ข้อดี: ปรับระดับการบดได้ถึง 270 ระดับ เร็วและแม่นยำ
• ราคาโดยประมาณ: 15,000 – 20,000 บาท

5. Fiorenzato F64 EVO ⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ที่เน้นเอสเปรสโซ่

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: หน้าจอสัมผัส ปรับระดับบดละเอียดได้แม่นยำ
• ราคาโดยประมาณ: 40,000 – 55,000 บาท

6. Rancilio Rocky ⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ขนาดเล็ก

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: ขนาดกะทัดรัด แข็งแรง คุ้มค่ากับราคา
• ราคาโดยประมาณ: 12,000 – 18,000 บาท

7. Compak K3 Touch ⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ที่ต้องการเครื่องบดคุณภาพสูงในราคาประหยัด

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: ปรับระดับบดได้ละเอียด โครงสร้างแข็งแรง
• ราคาโดยประมาณ: 20,000 – 30,000 บาท

8. Fellow Ode Brew Grinder ⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ที่เน้นกาแฟดริป

• ประเภท: Flat Burr Grinder
• ข้อดี: ออกแบบสวยงาม เงียบ ไม่ร้อนง่าย
• ราคาโดยประมาณ: 15,000 – 22,000 บาท

9. Breville Smart Grinder Pro ⭐⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ขนาดเล็ก และใช้งานในบ้าน

• ประเภท: Conical Burr Grinder
• ข้อดี: ปรับระดับบดได้ง่าย คุ้มค่ากับราคา
• ราคาโดยประมาณ: 10,000 – 15,000 บาท

10. Hario Skerton Pro ⭐⭐⭐

เหมาะสำหรับ: คาเฟ่ที่ต้องการเครื่องบดแบบแมนนวล

• ประเภท: Hand Grinder
• ข้อดี: ราคาประหยัด ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
• ราคาโดยประมาณ: 2,000 – 3,500 บาท

สรุป: เครื่องบดกาแฟแบบไหนเหมาะกับคาเฟ่ของคุณ?

• คาเฟ่ขนาดใหญ่ ต้องการบดเร็วและแม่นยำ? → Mahlkönig EK43 หรือ Mazzer Super Jolly
• คาเฟ่ขนาดกลาง ต้องการคุณภาพดีในราคากลางๆ? → Eureka Mignon Specialita หรือ Fiorenzato F64 EVO
• คาเฟ่ขนาดเล็กหรือบาริสต้ามือใหม่? → Baratza Sette 270 หรือ Rancilio Rocky
• คาเฟ่ที่เน้นกาแฟดริป? → Fellow Ode Brew Grinder
• คาเฟ่ที่ต้องการเครื่องบดแบบพกพา? → Hario Skerton Pro

💡 อย่าลืม! การเลือกเครื่องบดที่ดีช่วยให้คาเฟ่ของคุณเสิร์ฟกาแฟที่มีคุณภาพ และเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า หากคุณกำลังมองหาเครื่องบดกาแฟที่เหมาะสม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Cafe At Home 🎯