Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษ คือ กาแฟที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูกจนถึงการคั่วและชง โดยมีการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หอมอร่อย และมีความหลากหลายของรสชาติที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์และแหล่งปลูก
✨ 5 Tips Specialty Coffee
✅ เลือกระดับการคั่วที่เหมาะสม : ระดับการคั่วของเมล็ดกาแฟมีผลอย่างมากต่อรสชาติ การคั่วอ่อนจะมีรสเปรี้ยวและมีกลิ่นผลไม้มากกว่า ในขณะที่การคั่วเข้มจะมีรสชาติเข้มข้นและขมมากกว่า ลองทดลองเลือกระดับการคั่วที่คุณชอบ
.
.
✅ บดสดใหม่ : เมล็ดกาแฟที่บดสดใหม่จะคงรสชาติและกลิ่นหอมเอาไว้ บดก่อนชงเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
.
.
✅ ใช้น้ำที่มีคุณภาพ : คุณภาพของน้ำที่คุณใช้สามารถส่งผลต่อรสชาติของกาแฟได้ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำกระด้างที่มีแร่ธาตุสูง เพราะน้ำเหล่านี้อาจมีรสชาติเหมือนโลหะได้
.
.
✅ ชงอย่างสมบูรณ์แบบ : วิธีการชงที่แตกต่างกัน (เช่น การชงเอสเพรสโซ่ การชงแบบดริป การชงแบบเฟรนช์เพรส) ต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์เฉพาะ เรียนรู้วิธีการชงที่เหมาะสมสำหรับกาแฟที่คุณเลือกเพื่อดึงรสชาติออกมาอย่างเต็มที่
.
.
✅ จับคู่กับอาหาร : กาแฟพิเศษเข้ากันได้ดีกับอาหารบางชนิด ลองจับคู่กับอาหารประเภทต่าง ๆ เพื่อค้นหาอาหารที่คุณชอบ เช่น กาแฟคั่วอ่อนเข้ากันได้ดีกับขนมอบ ในขณะที่กาแฟคั่วเข้มเข้ากันได้ดีกับช็อกโกแลตหรือชีส
.
.
ทำไมถึงควรลองดื่ม Specialty Coffee?
✅ สัมผัสรสชาติที่แตกต่าง : ช่วยสัมผัสกับโลกของกาแฟที่หลากหลาย ทั้งรสชาติที่เปรี้ยว หวาน ขม หรือกลิ่นที่หอมหวานของผลไม้ ดอกไม้ หรือถั่ว
✅ เรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟ : ช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับกาแฟมากขึ้น ทั้งเรื่องสายพันธุ์ แหล่งปลูก และวิธีการชง
✅ สนับสนุนเกษตรกร : เป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกกาแฟคุณภาพสูง