ในปัจจุบัน การชงกาแฟดื่มเอง กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหากซื้อกาแฟจากร้านทุกวันก็จะเป็นการเสียค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป หลายคนต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายร้อยบาทต่อเดือนสำหรับค่ากาแฟ อีกทั้งยังเสียเวลาในการเดินทางไปร้านอีกด้วย เหตุนี้จึงทำให้การซื้อเครื่องชงกาแฟและกาแฟสำเร็จรูปมาชงเองที่บ้านหรือที่ทำงานจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย วันนี้ Cafe At Home ขอแนะนำประเภทเครื่องชงกาแฟที่ใช่สำหรับคุณ พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละเครื่อง เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจหากคุณต้องการเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟ 🪄
☕️ เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso Machine)
.
.
ถือเป็นระบบการชงกาแฟที่ซับซ้อนและมีอุปกรณ์มากที่สุด มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลายแสนบาท การทำงานของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่นั้นค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็หมายถึงความสามารถในการควบคุมและปรับแต่งรสชาติกาแฟได้อย่างละเอียด
กระบวนการชงกาแฟเริ่มต้นด้วยการบดเมล็ดกาแฟด้วยเครื่องบดเมล็ดกาแฟ จากนั้นนำผงกาแฟใส่ในก้านชง เกลี่ยผงกาแฟด้วยที่เกลี่ย และอัดผงกาแฟให้แน่นด้วยแทมป์เปอร์ แล้วนำไปใส่ในเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ ระหว่างกระบวนการนี้ ผู้ชงสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณกาแฟ ปริมาณน้ำ ระดับความละเอียดของผงกาแฟ แรงดันในการอัด เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ดี!
จุดเด่น :
– ให้รสชาติกาแฟเข้มข้น สามารถทำเมนูกาแฟได้หลากหลาย
ข้อดี :
– เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ ควบคุมและปรับแต่งรสชาติกาแฟได้เองอย่างละเอียด ได้กาแฟสดที่ชงขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง
– ต้นทุนต่อแก้วถูกกว่าการซื้อจากร้าน เนื่องจากผู้ชงสามารถเลือกใช้วัตถุดิบตามงบประมาณและความต้องการของตนเองได้
ข้อเสีย :
– ราคาค่อนข้างสูง ต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานอย่างละเอียด
☕️ เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ (Fully Automatic Coffee Machine)
.
.
กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผสมผสานข้อดีของเครื่องชงกาแฟประเภทต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติ จะจำลองการทำงานของเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่มาเป็นระบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งาน
การทำงานของเครื่องชงกาแฟอัตโนมัติเริ่มจากการที่ผู้ใช้งานตั้งค่าหรือเลือกเมนูกาแฟที่ต้องการ จากนั้นเครื่องจะเริ่มบดเมล็ดกาแฟสดเป็นแก้ว ๆ ซึ่งทำให้ได้กาแฟที่สดใหม่อย่างแท้จริงในแต่ละแก้ว โดยผู้ใช้งานยังสามารถเลือกใช้เมล็ดกาแฟได้ตามชอบ หลังจากบดเมล็ดแล้วเครื่องจะเริ่มกลั่นกาแฟ โดยจำลองหลักการทำงานของเครื่องเอสเพรสโซ่ จากนั้นจะมีการเติมส่วนผสมลงไปให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ ในบางรุ่นก็สามารถตั้งค่ารสชาติกาแฟแก้วโปรดไว้ล่วงหน้าได้อีกด้วย
จุดเด่น :
– สะดวกสบาย ใช้งานง่าย เพียงเติมน้ำ เติมเมล็ดกาแฟ และกดเลือกเมนูที่ต้องการ ใครๆก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่ยากเย็น สามารถตั้งค่าความเข้มข้นของกาแฟและปริมาณได้เอง รวมถึงมีฟังก์ชันทำความสะอาดอัตโนมัติ
ข้อดี :
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกาแฟหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ต้องการขั้นตอนการชงที่ยุ่งยาก
– อิสระในการเลือกใช้เมล็ดกาแฟตามความชอบได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
– สามารถชงเอสเพรสโซ่ได้ และนำไปประกอบเป็นเมนูอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกับการใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่
– รวดเร็ว ใช้เวลาในการชงไม่เกิน 1 นาที
ข้อเสีย :
– ราคาสูง โดยมีหลายแบรนด์ให้เลือก ซึ่งมีราคาแตกต่างกันไปตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ จนถึงหลักแสนบาท
– แม้จะสามารถปรับแต่งรสชาติได้ในระดับหนึ่ง แต่รสชาติกาแฟที่ได้อาจด้อยกว่ากาแฟที่ชงโดยบาริสต้ามืออาชีพที่ใช้เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ เนื่องจากการควบคุมรายละเอียดย่อยอาจไม่ละเอียดเท่า
☕️ เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล (Capsule Coffee Machine)
.
.
เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนรักกาแฟในยุคปัจจุบัน พร้อมราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงเหมือนเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่หรือเครื่องชงกาแฟแบบอัตโนมัติ โดยมีการนำเมล็ดกาแฟคุณภาพมาบดและบรรจุไว้ในแคปซูลพิเศษ ช่วยถนอมความสดและกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟไว้ได้อย่างดี
การชงกาแฟด้วยเครื่องแบบแคปซูลจึงเป็นวิธีการที่สะดวกและง่ายดาย โดยเพียงใส่แคปซูลกาแฟลงในเครื่อง เครื่องจะเจาะฝาแคปซูลและสร้างแรงดันน้ำร้อนผ่านแคปซูล ทำให้ได้กาแฟราวกับการชงสด ๆ แต่มีความสะดวกสบายมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักกาแฟในยุคปัจจุบันที่ต้องการความรวดเร็วและประหยัดเวลา
จุดเด่น :
– สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา ทำความสะอาดง่าย เพียงใส่แคปซูลและกดปุ่มก็ได้กาแฟ 1 แก้ว
ข้อดี :
– เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องการขั้นตอนการชงที่ยุ่งยาก
ราคาไม่แพง เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลมีราคาตั้งแต่ 5,000-19,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่จับต้องได้สำหรับผู้บริโภคทั่วไป ส่วนแคปซูลก็ไม่แพง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 19-40 บาทต่อแคปซูล ใช้งานง่ายและสะดวกสบายเท่านั้น
– ได้รสชาติกาแฟที่สดใหม่ในทุกแก้ว เนื่องจากเมล็ดกาแฟถูกบรรจุในแคปซูลปิดสนิท ช่วยรักษาความสดของเมล็ดไว้ได้นาน
– มีหลากหลายรสชาติ สามารถเลือกแคปซูลจากหลายแบรนด์และหลายสายพันธุ์เมล็ดกาแฟ ตามความชอบของผู้บริโภค
ข้อเสีย :
– คุณภาพและความสดของกาแฟในแคปซูลน้อยกว่ากาแฟที่บดสด เนื่องจากเมล็ดถูกบดและบรรจุไว้ในแคปซูลไว้แล้ว
– มีข้อจำกัดในการปรับแต่งรสชาติ ไม่สามารถปรับปริมาณผงกาแฟได้มากนัก
✨ ข้อแนะนำ ✨
✔️ ลองชิมกาแฟ : ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองชิมกาแฟจากเครื่องชงกาแฟแต่ละแบบ เพื่อเปรียบเทียบรสชาติ
✔️ อ่านรีวิว : อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
✔️ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกเครื่องชงกาแฟที่เหมาะสมกับคุณ
ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องชงกาแฟแต่ประเภทจึงควรพิจารณาจากความสะดวก งบประมาณ รวมถึงระดับความชำนาญของผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้รับประสบการณ์กาแฟที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด
หวังว่าบทความจาก Cafe At Home นี้ จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟของเหล่าคนรักกาแฟ 😍